2021 In Review: ปีแห่งการทดลองและก้าวใหม่ๆในชีวิต

Year In Review | May 2023Read in Outline


หายใจเข้าออกแปปเดียวก็เห็นตัวเองกลับมานั้งเขียน Year In Review อีกแล้ว ด้วยความที่ปีที่แล้ว Start อะไรไว้เยอะมากๆและรูปแบบการใช้ชีวิตของปีนี้มันค่อนข้างเรื่อยๆ การเรียงต่างๆก็จะเปลี่ยนไปจากปีที่แล้วอีก 555 English version is somewhere below !, 日本語版もあるんだゾ!

ถ้าจะให้พูดรวมๆ ปี 2021 เป็นปีที่เรียกว่าแทบจะไม่ได้มีอะไรเลยเพราะว่า 3/4 ของปีก็คือการรอวัคซีน แล้วพอฉีดแล้วออกบ้านมาได้แล้วแปปนึงก็มี Delta เอย Omicron เอย ลืมตาอีกทีก็หมดปีละ

เวลาส่วนใหญ่ก็จะใช้กับการอยู่บ้านซะมากกว่า ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ก็จะประกอบไปด้วย ตื่น, ทำงาน, นั่งโง่/ เล่นเกม, ท่องศัพท์, นอน ซึ่งถ้าเทียบกับหนังหรือเล่นเกมก็อาจจะเป็นช่วงที่ตัวละครเก็บ EXP อะไรซักอย่างไม่ได้มีเหตุการตื่นเต้นมากๆเท่าไหร่

แต่ถึงจะพูดอย่างงั้นก็เถอะ การได้เริ่มทำงานก็เป็นอะไรที่เปิดโลกน่าตื่นเต้น (?) อยู่ดี เพราะเราเข้าไปอยู่ใน space เดี๋ยวกับคนส่วนใหญ่ในสังคมไปแล้วที่มีเรื่องการสุขภาพ การเงิน การงาน มาเพิ่มให้กังวล 555

พอเริ่มได้เงินเดือนก็ได้ลองทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำมาตลอดเช่นจับบัตรเครดิต, ผ่อนซื้อของ, ช็อปปิ้ง…., กินข้าวแพงๆ…., กู้เงิน…… (และก็เรียนรู้ผลกระทบของมัน 555) หลังจากนั้นก็ปรับเรื่องการใช้เงินตัวเองให้สมเหตุสมผลด้วยวิธีต่างๆมากขึ้นช่วงท้ายๆปีก็เริ่มลงตัวไม่ได้ติดนี้ล้นตัวอะไรขนาดนั้น 555 ปีนี้ก็กะจะให้เป็นปีที่อยากทำอะไรก็ทำ

นอกจากนั้นก็เริ่มคิดถึงสิ่งที่อยู่ในอนาคตไกลๆเช่น สุขภาพ หรือการลงทุน (รีบปะ 555) Diet แบบ IF, นอนให้พอ, เก้าอี้ดีๆ และเริ่มศีกษาเรื่องการลงทุน (ของพวกนี้ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีไรงี้)

เวลาว่างส่วนใหญ่ปีนี้ก็ยังคงเอาไปลงกับสิ่งเดิมๆจากปีที่แล้ว ติดเกม/ ตามดูไลฟ์ออนไลน์ และก็เรียนภาษาญี่ปุ่นไปในตัว มีความสนใจใหม่ๆอยู่บ้าง

ต่อจากนี้จะเป็นคอนเท้นท์ฟิวๆเขียนให้ตัวเองอ่านละ สนใจก็อ่านได้ หรืออ่านข้ามๆก็ไม่ว่านะ 555

Employment — ทำงาน, productivity บลาๆ

ต้นปี 2021 เป็นช่วงที่เรียนอยู่ปี 4 เทอม 2 ซึ่งด้วยความตั้งใจเดิมว่าอยากจะเริ่มทำงานเร็วตั้งแต่เทอมสองเลยก็เลยลงเรียนหนักเป็นพิเศษ และเทอมสองก็เหลือแต่โปรเจคกับวิชาอื่นๆนิดหน่อยก็เรียนจบ

อาจจะไม่ได้เล่าเอาไว้ปีที่แล้ว แต่ช่วงกรกฏาคมได้ Offer มาจาก Brikl ให้ชวนไปทำงานที่นั้นแต่ด้วยความที่เรียน ปี 4 เทอม 1 อยู่และก็เรียนเยอะมากๆก็เลยบอกว่าจะว่างเทอมสองหรือช่วงมกราคม เดี๋ยวจะลองติดต่อไปอีกที Fast Forward มามกราคมเขาก็เมลล์มาหาจริงๆ (ก่อนเราจะนึกออกอีก) ไม่อยากลงรายละเอียดเยอะมากแต่ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ก็ได้เริ่มทำงาน Part-Time เป็น Software Engineer เลยประมาณกลางมกราคม

ทำงานที่ Brikl เป็นอะไรที่มีความสุขมากเพราะทุกๆคนที่นั้น Friendly และก็ Supportive มากมีการแลกเปลี่ยนความรู้ตลอด งานที่ทำมี Challenge ในระดับที่พอดีกับความสามารถตัวเอง DX ก็ดีด้วยเพราะมีทีม Platform ที่คอยดูแลเรื่องยิบย่อยต่างๆ เช่นเรื่อง Performance/ Pattern/ Automation ทำให้ App Team focus กับการ Develop product ได้อย่างเต็มที่ (brikl.com/jobs ยังรับสมัครอยู่ btw)

Flow Zoneeeeeeee หารูปมาใส่เฉยๆ

พอเข้าใกลัช่วงเรียนจบก็เป็นช่วงหมด Probation ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดีและก็เริ่มทำงาน Full-time หลังจากนั้นเป็นต้นมา (นุ่มยังกะเครื่องบินจอด) หลังจากผ่าน Probation ก็ได้รับมอบหมายงานมากขึ้น

Lifestyle-การนอน, IF, ออกกำลังกาย (บ้าง) ☺️

tl;dr ห่วงเรื่อง Ergonomics, เริ่มออกกำลังกาย (Thx ring fit), Intermittent Fasting และก็ ห่วงเรื่องนอน

พอเริ่มโดดเข้าไปใน Loop การทำงานประจำโดยเฉพาะ WFH ก็ต้องเริ่มคำนึงถึงเรื่องสุขภาพเหมือนคนอื่นบ้างละ (ปกติเห็นผ่านๆในเฟสบ่อยมาก) เพราะว่าเวลาส่วนใหญ่ก็จะตกลงไปกับการนั่งหน้าคอมทั้งวันและก็กินๆนอนๆ ไม่ค่อยมีโอกาสจะได้ดินไปไหนมาไหนเหมือนตอนที่เรียนอยู่มหาลัย

จริงๆปีก่อนเคยปวดหลังจนต้องลองไปถามหมอว่าเป็นอะไรน่ากังวลไหม แต่เขาก็ตอบมาว่าอาจจะเป็น Office Syndrome ทั่วๆไป ถ้าปรับ Posture การใช้ชีวิตประจำวันออกกำลังกาย ก็จะช่วยให้หายเจ็บได้ แถมมีเคยลองไปฝังเข็มดัดกระดูกด้วย (แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เป็นการเตือนสติที่ดีว่า Posture ควรจะเป็นยังไง 555)

สิ่งที่ทำตลอดๆปีนี้ก็คือเช็คท่านั่งบ่อยๆระหว่างทำงาน (ดูยูทูปไม่นับ 555) และก็พยายามยืดบ่อยๆ (ยืดมือกัน Carpel Tunnel ด้วย) ทุกๆ 1–2 ชัวโมง ออกมาเดินเล่นบ้าง

ปีนี้มี Effort จะออกกำลังกายมากขึ้นด้วย แต่ยังไงก็ไม่ค่อยชอบเรื่องการเข้ายิมอยู่ดี ก็เลยหันไปสนใจทาง body weight exercise เพราะเป้าไม่แค่อยาก Fit ไม่ได้อยากเล้นกล้ามไรงี้เท่าไหร่ ปีก่อนๆเคยลองทำแบบ HIIT 7-min workout ที่ทำได้ 2–3 เดือนแล้วก็หยุดไป

กลับมาสนใจอีกครั้งช่วงนี้เพราะเห็นเกม Ring Fit Adventure ที่ใช้แค่ Pilates Ring มาช่วย Resistance, Joy-con มาช่วยจับ Posture และก็ทำออกมาเป็นเกม Adventure ให้มี motivation เล่นเรื่อยๆ พะ…พอได้เงินเดือนก็เก็บตังมาซื้อ (จริงๆก็คือหาข้ออ้างให้ซื้อ Switch แล้วคุ้ม)

เดือนสองเดือนแรกๆตั้งเป้าไว้เล่นจ-ศ วันละด่านสองด่าน move minute ประมาณ 17 นาที (เวลาที่ร่างกายขยับ ยืนพักไม่นับ แปลเป็นเวลาจริงๆก็ครึ่งชั่วโมง) และก็พักเสาร์อาทิตย์ แต่พอหลังสองเดือนแรกก็เกิดยุ่งๆย้ายบ้าน บวกกับ Adventure mode เริ่มทรมานเกิน 555 เลย Skip ไป เดือนกว่าๆตอนนี้กำลังกลับมาค่อยๆเล่นต่อละ

เพื่อนในกลุ่มคนนึงก็ไปเรียนต่อป.โทเรื่องสุขภาพ เขาก็ชอบมาเล่าให้ฟังว่าเรียนอะไรมาในดิสคอร์ดบ่อยๆ ก็เลยได้อานิสงค์เรียนรู้เรื่อง Lifestyle ที่ควรจะเป็น, ผลกระทบต่างๆ และก็ขายอาหารเสริม (?) มีครั้งของครั้งที่ไปแวะฟังแล้วรู้สึกเอามาปรับใช้ได้ก็คือเรื่องการนอน และก็การกิน

เรื่องการนอนจริงๆเห็นผ่านบนเฟสบ่อยๆและก็ได้เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมาบ้าง (มองไปที่เพจญี่ปุ่นที่ชอบแปล Content แบบนี้) แต่คราวนี้ที่ไปฟังมาเป็น lecture จากต้นจนจบครบสูตรเลย สรุปสั้นๆก็คือการนอน (ที่ดี) สำคัญยิ่ง และก็นอนให้ครบ 7.5–8 ชั่วโมง (3–4 cycle)

จากประสบการณ์หลายๆเดือนที่ปรับการนอนก็ได้ความว่า จะนอนได้ดีก็ต้อง 1) เลือกนอนให้เป็นเวลา 2) ทำบรรยกาศให้มีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด (ห้องมืด, เงียบ + เข้าห้องน้ำก่อนนอน) 3) ทำให้ตัวเองพร้อมนอนก่อนนอน (ไม่ทำอะไรตื่นเต้น และก็ทำตัวให้ว่างก่อนนอน) พอพร้อมนอนจริงๆมันจะง่วงแล้วก็หลับไปเลย ถ้านอนครบตื่นมาก็จะสดชื่นเองแหละ (มั้ง) อ๋อและก็หมอนเทพอันนี้ช่วยได้ และก็ถ้ามี melatonin เสริมช่วยได้เยอะในคืนที่นอนไม่หลับหรือจำเป็นต้องนอน

เป็นหนังสือแถมหมอน หาซื้อได้ที่คิโนที่ขายหนังสือญี่ปุ่น 800 กว่าบาทมั้ง

อีกเรื่องที่ไปฟังเพื่อนก็คือเรื่อง Diet แต่จะโฟกัสไปทาง แบบ Intermittent Fasting (IF) ปกติ Diet จะกำหนดว่ากินอะไรเท่าไหร่ยังไง แต่ IF จะกำหนดแค่กินเมื่อไหร่กินได้กี่ชัวโมง รอบๆตัวก็มีคนที่ Fasting อยู่บ้างมีตัวอย่างให้เรียนรู้

พอเริ่มสนใจก็ลองเริ่ม Research ดูว่ามันเป็นยังไงกันแน่ เราเขาทำกันเพราะทำตามๆกันมา จากที่ค้นมาทฤษฏีก็คือเวลาไม่ได้กินติดต่อกันนานๆ หลายชั่วโมง (14+) ร่างการจะใช้น้ำตาลที่สะสมมาหมดและก็เปลี่ยนไปใช้ไขมัน และก็มีเรื่องกินสองมื้อได้แคลน้อยกว่าสามมื้อ (ถ้ากินปกติอ่ะนะ)

แบบที่เลือกมาใช้ก็คือ 16/8 diet หรือว่า fast 16 ชั่วโมง กิน 8 (12:00–20:00) บางวันอาจจะกินแค่ 7 บางวันก็ใจแตกกินไปถึงสามสี่ทุ่ม ถ้าพูดกันแบบบ้านๆก็คืองดกินมื้อเช้านี่แหละ เริ่มกินแบบนี้มาตั้งแต่กลางกรกฏา ผลที่เห็นก็มีน้ำหนักลดทะลุกำแพง 80 (ค้างอยู่นาน) ลงมาแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอดอาหารกินปกติ และก็คนรอบตัวถามว่า “ทำไมไม่กินข้าวเช้า” มากขึ้น

คิดว่าปีนี้ก็เป็น initative ที่ดีที่มาเริ่มใส่ใจเรื่องสุขภาพบ้าง (ไม่นับดื่มเยอะ) จากที่ปีก่อนๆก็เห็นภาพตัวเองทำลายสุขภาพมาเยอะ 555

Tech/ Coding 🤖

ถ้าพูดถึงรีวิวประจำปีก็ขาดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องเทค ถ้าจะพูดรวมๆปีนี้ไม่ค่อยได้ Explore เทคโนโลยีเว็บใหม่ๆ หรือลองอะไรที่ฉีกใหม่จากเดิมมากซักเท่าไหร่ จะเป็นการ Specialize ในด้านที่ทำอยู่มากกว่า เอียงๆไปทาง Software Engineering (ต่อจากนี้จะพูดเรื่อง Techๆ ใครขี้เกียจอ่านข้ามไปปปป)

โปรเจคใหญ่ๆอย่างแรกเลยก็ไม่พ้น Senior Project ที่แบกตัวเองจนจบ 555 เป็นแอปไว้ Track หา attack ใน Local network โดยการเช็ค broadcast traffic (ยาวเป็นบ้า) แต่หลักๆก็คือ 1) Capture Traffic, 2) Parse Content/ Find Attack, 3) Frontend ซึ่ง Frontend ของโปรเจคนี้ก็จะเอาข้อมูลที่ Parse มาโชว์เป็นรูปแบบ Graph ผ่าน D3.js

อีกโปรเจคนึงก็คือเว็บ Tracker ไว้ Track ข้อมูล Leaderboard D4DJ ช่วงที่ยังเล่นเกมอยู่ https://hamzaabamboo.github.io/muni-web/ เริ่มทำประมาณช่วงปลายๆปี 4 และก็ทำต่อมาจนถึงวันนี้ tech ก็ส่วนใหญ่ next.js กราฟที่ใช้ในนี้ก็ได้ประบการณ์จาก Senior Project มาทำนี่แหละเพราะว่า D3 เหมือนกัน

ตีกราฟ แล้วก็เอาข้อมูล archive เอาไว้

โปรเจคนี้มีคนทำ backend ไว้เก็บ Data point ด้วยการ OCR จาก Screenshot อยู่แล้ว แต่ Frontend ทำแบบรีบๆไปหน่อยเห็นว่า UX ไม่ค่อยดีและ Tech ก็ค่อนข้างเก่าเราก็เลยอาสาทำ Frontend อีกอันขึ้นมาและก็จะช่วย maintain ไปเรื่อย

ผ่านไปสองสามเดือน คนที่ maintain เลิกเล่นเกมก็เลยอาสารัน Script Screenshot + OCR ให้ต่อเพราตัวเองยังเล่นอยู่ พอทำไปหลายๆเดือนเริ่มเหนื่อยกำลังท้อแท้ อีกคนในคอมมูเดียวกันก็ไปเจอวิธี Scrape Data ที่ดีกว่า OCR ก็เลยตัดสินใจ Rewrite ทุกอย่างใหม่เป็นครั้งสุดท้าย (ส่วนนึงด้วย C#)และก็ปล่อยมันรันไปตลอดกาล 555 (ปกติต้อง manual อัพเดทเองทุกอย่าง) ตอนนี้ด้วยความที่งานยุ่งและก็ไม่ค่อยเล่นเกมนี้แล้วก็เลยไม่ค่อย push ฟีเจอร์ใหญ่ๆแล้ว

จริงๆโปรเจคนี่ก็เป็น 1 ในไม่กี่โปรเจคที่มีผู้ใช้จำนวนนึงเลย รู้สึกดีเวลามีคนใช้ (พูดเหมือนเดิม 555) Application เราและก็ Feedback กลับมาทำให้ Application มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ

อีกโปรเจคย่อยก็คือเว็บไว้โชว์ Asset ในเว็บซึ่ง 1 ในฟีเจอร์ก็คือ Render Live2D ลง บน…… pixi นั่นเอง !!! ซึ่งนอกจาก Render มาโยกไปมาเฉยๆแล้วก็ทำ GUI ไว้อ่าน Story ในเกมด้วย ซึ่งจริงๆตอนแรกไม่คิดว่าจะมีคนใช้ แต่มี Fan Artist ที่รู้จักคนนึงใช้เว็บบ่อยมากเพราะเว็บโชว์ Live2D ได้ทั้งตัวเลย (ปกติในเกมเห็นถึงแค่ประมาณต้นขา) หะ หรือว่าปีหน้าจะทำ Motion Capture Live2D ใช้เอง ??

นี่ไม่ใช่ภาพในเกม แต่เป็นภาพที่ Render เองบนเว็บเลย

นอกจากโปรเจคพวกนี้แล้วก็มีโปรเจคย่อยๆที่ไว้บ้าง

  • ลอง Render 3D ด้วย Three.js

君の愛馬が

  • Scrape เว็บ reg.chula เช็คว่าเรียนจบหรือยัง
  • Extension ไว้ช่วยเรื่อง Workflow ตอนทำงาน
  • Scrape ช่อง iptv
  • ทำแอปไว้เก็บ GIF ใส่ indexeddb (POC เสร็จแต่ทำไม่เสร็จสักที)
  • Video Clipper UX/ Optimization/ Cropping: https://video-clipper-coral.vercel.app/
  • HamBot Covid

  • HamBot Study Reminder

ช่วงปลายๆปี (อารมณ์ไหนก็ไม่รู้) ก็อยากฝีกสกิล Problem Solving เพราะพอลองส่องสมัครงานที่ไหนๆก็ต้องใช้สกิลนี้ในระดับบ้าคลั้ง คนรู้จักหลายๆคนก็ปั่น leetcode กันมาไม่น้อย พอทำไปได้ข้อสองข้อก็เริ่มรู้สีกตัวว่าสกิลด้านนี้ค่อนข้างอ่อนเลยใช้เวลาประมาณเดือนนึงมั้ง ทำวันละ 4–5 ข้อ แล้วอยู่ๆก็เลิกทำไปเพราะติดทำอย่างอื่นมั้ง

พอถึงเดือนธันวาคมก็มีแอบๆเข้าไปทำ Advent Of Code ด้วยแต่พอทำได้ถึงประมาณวันที่ 18 ก็มีไปเที่ยว บวกกับโจทย์วันหลังจากนั้นยากมากๆๆๆๆๆๆๆ (ปกติก็ยากนะ แต่อันนี้คือสมองไม่ไหลเทคโลโนยีไปไม่ถึง) ก็เลยยอมแพ้ไป ปีหน้าก็คงจะกลับมาทำอีกแต่ไม่รู้จะทำจบไหมนะ 555

พูดรวมๆก็คือปีนี้ไม่ได้แหวกตัวเองไปเรียนรู้อะไรใหม่หรือทำอะไรที่ Experimental มากเท่าไหร่ แต่เน้นเอาสิ่งที่ตัวเองรู้อยู่แล้วมา apply และก็ทำอะไรที่มัน practical และก็ใช้ได้จริงซะส่วนใหญ่ ขอดีก็คงจะเป็นการที่ได้ลงมือทำด้วยความรู้เดิมเลย และก็เสียเวลากับการนั่งงม troubleshoot รัวๆ

สาเหตุส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ทำไรมากก็คือมีเวลาที่ Code ตอนทำงานด้วยก็เลยไม่อยากจะเห็น Code นอกเวลางานซักเท่าไหร่ (?) คิดว่าสิ่งที่ได้จากด้านนี้คงจะเป็นพวก soft skill แบบการ manage/ deliver งาน และสกิลรอบๆการเขียน code แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเว็บโดยตรงเช่น design pattern/ collaboration/ automation/ maintain project

ปีหน้าคงจะเป็นปีที่พยายามอัพเกรด Hard/Soft skillให้ตัวเองพร้อมที่จะ Advance ใน Career path นี้ต่อไปแหละมั้ง ปีหน้าก็คงจะมีไอเดียลอยมาจากอากาศแล้วหยิบมานั่งทำเองแหละ

Nihongo 🇯🇵

tl;dr ท่องศัพท์ทุกวันขยันเป็นบ้า ยกเลิกสอบแต่ก็ท่องศัพท์ต่อ ปีหน้าก็จะท่องศัพท์ต่อไป

ความเดิมปีที่แล้วด้วยความที่กลับมาตามอะไรญี่ปุ่นจริงจังขึ้นอีกครั้ง ก็อยากจะเรียนญี่ปุ่นเพิ่มต่อจากความรู้เดิมที่มีอยู่

ตั้งแต่เริ่มทำ Wanikani ปีที่แล้วก็ทำมาตลอดเรื่อยๆจนถึงวันนี้ ถ้าใครไม่เห็นภาพก็คือทุกๆเย็นก็จะท่องศัพท์พระมาณอาทิตย์ละ 60–80 คำทุกอาทิตย์และคำเก่าๆก็จะตามมาให้ทบทวน (หลอกหลอน) เรื่อยๆ วันไหนขี้เกียจก็จะเจอ 300 หรือช่วงหยุดยาวก็จะโดนไปเต็มๆ 700 คำ 5555 มีช่วงที่พักยาวๆก็คือช่วงปั่น Project ส่งและก็ช่วงไปเที่ยวล่าสุด

ปีที่แล้วทำสุดไว้ที่เลเวล 12 ตอนสิ้นปีผ่านมาปีนึงพอดีได้มา 22 เวล !! ใกล้ๆเป้าที่ตั้งไว้ปีที่แล้วพอดี

ไปสอบ JLPT สองครั้งล่าสุดที่สอบไม่ผ่าน สิ่งที่จำขึ้นใจเลยก็คืออ่านอะไรไม่ออกเลย ที่นี้พอเก็บเวลท่องศัพท์ครบปีความมั่นใจมันมาก็อยากจะไปล้างแค้นข้อสอบ JLPT N2 อีกครั้งด้วยคำศัพท์ในหัวมากมายที่ฟาร์มมา ก็เลยสมัครสอบ, เปลียนโหมดเป็นอ่านหนังสือสอบ,ทำข้อสอบเก่า บฝ. ทุกวันไปจนถึงกลางพฤษจิกาและก็…

เคเปิดหนังสือนอนต่อ

แต่ ! JLPT ไม่ใช่เป้าหมายของการท่องศัพท์หรือเรียนญี่ปุ่นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการท่องศัพท์ก็จะไม่หยุดอยู่แค่ตรงนี้ ถ้าดูจาก Pace เดิมอีก 6 เดือนจะไปอยู่ประมาณเลเวล 46 ซึ้งก็ตีกลมๆเป็น 2/3 ของข้อสอบ JLPT N1 !!! เลยจะตั้งไว้เป็นเป้าหมายไกลๆไปก่อนว่าอยากลองสอบ N1 ปีหน้าดู แต่ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ไหวก็จะถอยมาเก็บ N2 ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าอีก 6 เดือนจะได้ศัพท์เยอะขึ้นขนาดไหน

Wanikani LV.46 จะรู้ศัพท์ 99% N3 96% N2 67.71 N1

นอกจากการนั่ง Grind ท่องศัพท์แล้ว ตอนนี้ก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นแทบจะเป็นภาษาที่สามไปแล้วไม่ว่าจะ ดูทีวี/ อ่านข่าว/ เล่นเกม/ ฟังเพลง/ ดูเมะปิดซัพ ความรู้ศัพท์ตอนนี้รู้สึกเป็นที่น่าพอใจมากเพราะพักหลังเริ่มเปิด Jisho น้อยลงนานๆจะจับมาดูศัพท์แปลกๆ สิ่งที่ขาดก็น่าจะคงเป็นสกิลเขียนพูด เพราะไม่มีโอกาสได้ทำอะไรพวกนี้เท่าไหร่นอกจากทวิตมั่วๆ

คิดว่าปีหน้าก็คงจะเรียนศัพท์ใหม่ๆและก็ทำไปเรื่อยๆจนจบ Lv.60 Wanikani ก่อนที่จะเลิกห่วงเรื่องพวกนี้ไปเรืยนรู้ บวกกับ​ Lifestyle ช่วงนี้ด้วยทำให้ไม่ค่อยมีอุปสรรคเท่าไหร่กับการนั่ง grind อยู่บ้าน i.e. ท่องศัพท์ไปก่อน หลังจากนี้ค่อยคิด

Interests

tl;dr nerd stuff run away if you’re not interested

D4DJ

จริงๆปีที้แล้วเขียนไว้ประโยคสองประโยคแต่มาทบทวนเผื่อใครไม่ทันไม่รู้จัก, D4DJ เป็น Multimedia Franchise ของ Bushiroad ที่มีทั้ง อนิเมะ (D4DJ: First Mix), คอนเสริทต่างๆ, เกม (D4DJ Groovy Mix), มังงะ และก็อีกเยอะนับไม่ถ้วน

เราก็บังเอิญเข้าไปเป็นส่วนนึงใน Community Global ของแฟรนไชส์นี้เพราะตัวเองก็ชอบหลายๆส่วนของ D4DJ ไม่ว่าจะเป็น นักพากย์​ (岩田陽貴 btw), เพลง และก็เล่น Rhythm Game ก็เลยไปรู้จักคนหลายๆส่วนในเซิฟ ปกติเวลามีคอนเสริทออนไลน์ก็จะมารวมตัวกันและก็เชียร์ในช่องแชท สนุกไปอีกแบบ 555

พูดถึงเรื่องเกมละกันเพราะมีอะไรเยอะมาก เกมหลักๆจะเป็นเกมกดๆทั่วไป พอเล่นจบเพลงก็จะสะสมคะแนน (ใครเล่นเยอะก็เอาที่ 1 ไปไรงี้) ก็คือตอนแรกๆก็เล่นชิวๆอยู่ในเซิฟเพลินๆ เพราะทุกคนก็ต้อง matchmaking กันหมด แต่ผ่านไปประมาณช่วงกุมภาพันธ์เกมก็เอาโหมด private room มาใส่ แล้วคนที่เล่นเกมในเซิฟ discord ก็เริ่มชวนๆกันมาจับกลุ่ม ทันไดนั้นเองก็ได้โดดเข้าไปสู่โลกของการ “ปั่นอีเว้นท์”/Tier/ イベラン 5555

จริงๆการแข่งเล่นเพลงเก็บคะแนนแบบนี้มีตั้งแต่ Bang Dream Girls Band Party อยู่แล้วส่วนใหญ่คนที่ย้ายมาเล่นเกมนี้ก็เป็นคนที่ออกมาจากเกมนี้เหมือนกัน พอตัวเองเข้าไปอยู่กับคนพวกนี้ก็ได้เรียนรู้หลายๆอย่างเช่น ถ้าเล่น 100–200 ชั่วโมงต่ออีเว้นท์ก็มีโอกาสไปถึงจุดสูงสุดของ Leaderboard ได้…. พออีเว้นท์แรกของวงที่ชอบมาก็เล่นพลางๆไปกับพวกเขาละก็เดบิววงการไปสุดอยู่ที่อันดับ 19 555

เสียเงินไปเท่าไหร่ให้เป็นวิจารณญาณของผู้อ่าน

เอาเป็นว่าเล่นครบปีได้ Top 100 1 รอบ Top 50 3 รอบ และก็ไปพีคอยู่ที่อันดับ 3 ของเซิฟ… หลังจากจบอีเว้นท์นี้ก็บอกกับตัวเองว่าเลิกเล่นเหอะ 555 เพราะใช้เวลาเยอะมาก ถ้าอยากอ่านเต็มๆลองแปลเอา 555 https://twitter.com/HamP_punipuni/status/1437453916241756160

81/120 ชั่วโมงมั้ง

ช่วงเล่นปั่นอีเว้นท์ก็มีโอกาสได้เข้าไปสุงสิงกับคอมมูญี่ปุ่นล้วนด้วย (บางอีเว้นท์) ก็เป็นความสนุกไปอีกแบบและก็เรียนรู้การกลมกลืนไปกับพวกเขา 555 ได้เพื่อนอีกมากมาย (Kishida let me in)

เปลี่ยนเป็นชื่อเดียวกันและก็ไปกองอยู่บน Leadboard 555

นอกจากเล่นเกมแบบเก็บแต้มแล้วก็ได้ไปแข่ง rhythm game แบบ unoffical ด้วย จัดโดยคนในคอมมูอีกกลุ่มและก็ชวนๆกันมา ไปแข่งอยู่สองครั้งและก็ชนะมาสองครั้งเลย รอบแรกเป็นแข่งกันในเซิฟอังกฤษ และก็อีกรอบเป็นนัดสาธิตกฏนับคะแนนแข่งกับแชมป์เซิฟญี่ปุ่นอีกที ถึงจะเป็นการแข่งเล็กๆแต่ก็ท้าทายสนุกดีเพราะคนที่เล่นในเซิฟสนิทๆเก่งๆก็มาแข่งกันด้วย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ซ้อมแล้วฝีมือตกยับๆ แปะ https://twitter.com/HamP_punipuni/status/1429300112702861313 https://twitter.com/ChuuniClan/status/1409331824652742661

ถึงเล่นเกมตามอะไรพวกนี้จะดูค่อนข้างไรสาระแต่เราคิดว่าสิ่งที่ได้จากการอะไรพวกนี้ก็คือได้รู้จักคนใหม่ๆและก็ได้เพื่อนใหม่ๆเยอะมาก (ถึงจะออนไลน์ก็เถอะ) จากคอมมูที่ไปดูไลฟ์หรือตามนักพากย์, และก็คอมมูที่เล่นเกม ถามว่าสนิทกันขนาดไหนก็ ว่างๆก็แวะไปพิมพ์ลงดิสคอร์ด, มีปรึกษาปัญหาชีวิตกันเป็นกิจวัตร, นับวันรอญี่ปุ่นเปิดจะได้เจอนัดกินข้าวสักที 555

เกลือชิน 🧂

ไม่ค่อยอยากพูดถึงเกมนี้เท่าไหร่เพราะไม่มีอะไรให้พูดจริงๆ 555 ช่วงครึ่งปีแรกก็ค่อนข้างเป็น Active Player อยู่เล่นนู้นเล่นนี้เก็บครบ (ตอนนี้ก็ยังครบและ คอนเท้นท์ที่เป็น Exploration/ Openworld ) หมดจด Inazuma มาใช้แค่ 3–5 วันเปิดแมพ 100%

ez

แต่พอผ่านมาช่วงหลังๆ Spiral Abyss เริ่มทำตัวเหมือน Gacha Game ทั่วไปก็คือ ทำให้ด่านมันยากจัดๆและก็เปลี่ยน Meta ไปเรื่อยๆตามไม่ทัน (บังเอิ้ญ บังเอิญตัวหน้าตู้เก่งมากๆ) หรือไม่ก็ขี้เกียจจัดทีมนู้นนี่ๆ (ส่วนตัวไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้อยู่ละปวดหัวเกิน) ก็เลย Drop ตรงนั้นทิ้งไปเพราะมันเริ่มน่าเบื่อ

อีเว้นท์พักหลังก็เริ่มซ้ำๆระบบกาชาแปลกๆ (Lim หมดเพื่อ ???) ตอนนี้ก็แค่เปิดเกมเก็บเพชร เล่นอีเว้นท์เสาร์อาทิตย์ ถ้า yae miko (佐倉綾音さま) ออกจะเลิกล็อคอินละมาเล่นแค่ตอนแพทช์ใหญ่ๆทีเดียว หรือถ้าทำระบบ Skip Domain ได้ก็อาจจะกลับมา เล่นแล้วไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่กินเวลาชห.

อ๋อใช่อีกเรื่องนึงคือเบื่อคอมมูด้วยแหละ ด้วยเหตุผลต่างๆ

คนชอบเอาเกมไปเทียบกับกาชาอื่นแล้วก็หวังให้แจกเยอะๆเหมือนกัน แต่ระบบ pity นี่แทบจะป้อนให้อยู่ละ

Kimi no ai baka 🐴

ต้นเมษายนช่วงที่เล่น D4DJ อยู่กำลังปั่นอีเว้นท์นึงอยู่ ก็มีเกมใหม่ไฟแรงแซงทางโค้ง Umamusume Pretty Derby จาก Cygames หรือเรียกสั้นๆว่าสาวม้า เป็นส่วนนึงของแฟรนไชส์ชื่อเดียวกัน เกี่ยวกับสาวน้อยโลกเสมือนจริงที่มีพลังวิเศษวิ่งเร็วกว่าชาวบ้านเขา (เหมือนม้านั่นแหละ) วิ่งแข่งกัน จริงๆแฟรนไชส์นี้มีมาสักพักแล้ว แต่ว่าตัวเกมเพิ่งเปิดประมาณช่วงกุมภาพันธ์

หลังจากเกมเปิดได้ประมาณเดือนนึงคนรอบตัวก็เริ่มหันมาเล่นกันเรื่อยๆ ส่วนเราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ก็ดูห่างๆ พอลองไปส่องๆดูว่านักพากย์เป็นไงบ้างก็เจอนักพากย์ที่สนใจเยอะมาก 1 ในนั้นก็เป็นคนที่ตามอยู่ (鬼頭明里 btw) บวกกับหลายๆเห็นจากหลายๆคนดูจะชอบก็เลยลองเข้าไปเล่นดู

การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในไอดี 555

สำหรับตัวเกมคิดว่าสนุกดีเหมือนเล่น VN ฝึกนู้นนี้ แต่ข้อเสียคือเวลาฝึกใช้ดวงเยอะมากและก็กินเวลาเยอะมาก 5555 เล่นทีนึงใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทุกๆเดือนสองเดือนก็จะมีแข่งที่ต้องฝึกม้าเมต้าจัดๆมาแข่งถึงจะชนะ (คล้ายๆเกลือชินข้างบน) ประมาณ 4–5 เดือนแรกก็ขยันอยู่หรอก แต่พอหลังๆมีโหมดใหม่ที่ Power creep แรงมากต้องไล่ฝึกทุกอย่างใหม่หมด เริ่มขี้เกียจฝึกละก็ล็อคอินเข้าไปกดนู้นนี้เฉยๆพอ

พอเล่นไปได้สักพักก็เริ่มตามไปดูอนิเมะ และเรียนรู้กับประวัติศาสตร์ของการแข่งในญี่ปุ่นไปในตัว ตอนแรกๆพูดเล่นไปว่า “ชื่อแปลกๆยังงี้ใครจะไปจำได้ว่ะ” รู้สึกตัวอีกทีจำชื่อได้เกือบทั้งแฟรนไชส์…

Before:

After : 6 เดือนเปลี่ยนคนได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ 555

ด้วยความที่ Umamusume ดังระเบิดในญี่ปุ่น ทำให้หลายๆคนเริ่มมาสนใจแข่งม้าจริงมากขึ้น (หลายๆอย่างในเกม model มาจากชีวิตจริงอ่ะนะ ถ้าจำตารางแข่งในเกมได้ ก็จำตารางในชีวิตจริงได้ 555) แข่งครั้งแรกที่ดูคือ Nippon Derby (หาตัวที่เก่งที่สุดของอายุสามปีในรุ่นนั้น) เพราะมัน Trending แรงมากในทวิตญี่ปุ่นแต่ไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ก็เลยดูอยู่คนเดียว 555 พอแข่งใหญ่ครั้งต่อไปก็โดดเข้าไปจอยกับคนในคอมมูอุมะ (เขามีช่องไว้คุยเกี่ยวกับม้าจริงโดยเฉพาะเลย)

安田記念 ช่วงกลางๆปี

ส่วนตัวชอบดูการแข่งขันหลายๆอย่างอยู่แล้ว ทุกๆอย่างก็จะเกิดขึ้นและก็จบลงใน 2–3 นาที (โดยเฉพาะโค้งสุดท้าย) หลายๆอย่างในการแข่งในญี่ปุ่นมันดูน่าสนใจ (ในความเห็นส่วนตัว) ก็คือ ทุกการแข่งขันใหญ่จะมี narrative อะไรซักอย่างมาทำให้มันน่าลุ้นขึ่นไปอีก อย่างเช่นการแข่งล่าสุด Arima Kinen ที่เป็นการแข่งของมาที่เหล่าแฟนๆโหวดในปีนี้มาเจอกัน รอบของปีนี้เป็นการประชันกันระหว่าง ม้าอายุสามปีที่แข็งแกร่งที่สุดในปี, การแข่งครั้งสุดม้าอายุห้าปีที่หวังจะชนะ 2 ปีซ้อน, และก็ม้าอีกหลายๆตัวที่แบกฝันของตัวเองมาแข่ง (อีกอย่างก็คือได้เห็นลูกหลานของสาวม้าที่รู้จักมาวิ่ง 555)

ที่โหวดไปของปีนี ได้ปฏิทินฟรีด้วยยยยยยยยย

ตั้งแต่ Nippon Derby เป็นต้นมาก็นั่งดูการแข่งทุกอาทิตย์เลย อย่างน้อยก็จะพยายามไม่พลาดการแข่งใหญ่เพราะยังไงมันก็ Trending ใน Twitter ตลอด 555 แต่ละอาทิตย์ก็จะพยายามฝึกสกิลทำนายผลของตัวเอง (แต่ไม่ได้ใส่ตังไปนะ ยากเกิน) เผื่อวันนึงจะได้แวะไปดูที่ญี่ปุ่นบ้าง 555 https://twitter.com/HamP_punipuni/status/1452173325833101319

รวมๆก็คือเล่นเกมนิดหน่อย ตามฝั่งแฟรนไชส์บ้างเผื่อได้ไปดูไลฟญี่ปุ่นและก็สนใจม้าจริงเฉยๆไปในตัว 555

Other Stuff-ความสนใจอื่นๆ

  • Harmoe: สั่ง Goods เยอะสาส FC จะครบปีละ
  • 鬼頭明里: ไม่ได้ตามอะไรเท่าไหร่มากแต่น่ารักดี ซื้อ Goods เป็นครั้งคราว

  • 三澤紗千香: หลังๆมาตามเหมือนกันเพราะดูน่าสนใจดี 555 https://twitter.com/HamP_punipuni/status/1468868693174091776
  • Starlight: ไม่ค่อยได้เข้าไปทำอะไรแล้ว แต่ก็ตามห่างๆเพราะนักพากย์
  • Assault Lily: ตามอยู่ห่างๆเหมือนกัน เข้าไปดูรายการประจำเดือน
  • สั่งของจากญี่ปุ่นเป็นว่าเล่น 555 ใช้ Tenso ไป 6 รอบปีนี้
  • Pokemon Unite: เกมเวร
  • Game ใน Switch ต่างๆ: เข้าใจละทำไมผู้ใหญ่หลายๆคนบอกว่ามีตังซื้อแต่ไม่มีเวลาเล่น

Money-เงินๆทองๆ

ช่วงแรกที่ได้เงินเดือนก็แอบๆสับสนว่าเอาไปทำอะไรดีเพราะว่าช่วงแรกๆยังไม่มีภาระทางการเงินก็เลยเก็บส่วนนึงไปเก็บบ้าง คืนที่บ้านบ้าง และก็เอามาใช้ฟุ่มเฟือยบ้าง

พอผ่านไปเดือนสองเดือนก็เริ่มเห็นว่าโอเคอันนี้ไม่น่าจะเวิค ต้องเริ่มทำ Budget นู้นนี่มา Estimate และก็ Track และว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้างไม่งั้นเงินหายหมดแน่ ก็เลยกำเนิดเป็นการทำบัญชีแบบโง่ๆเอาไว้ดูว่าเงินไหลไปไหนบ้าง 555

ด้วยความที่ตัวเองไม่มีแรงพอแน่ๆที่จะนั่งจับเม็ดเงินทุกอันที่ไหลออกจากกระเป๋า ก็เลยเอาเงินส่วนที่จะออมออกไปเก็บก่อนเลย และก็เหลือไว้แค่เงินใช้ บวกกับ Track สิ่งที่ฟุ่มเฟือยจริงๆ (Goods/ เติมเกม) ของแต่ละเดือน ถึงมันจะไม่ได้ช่วยให้ลดเท่าไหร่แต่ก็ทำให้รู้สึกผิดเวลาจะใช้จ่ายนู่นนี้ 5555

ช่วงกลางๆปีที่บ้านมีแพลนจะย้ายบ้าน ส่วนหนึ่งก็คือให้เราย้ายไปอยู่คอนโด ส่วนตัวก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่เพราะว่าอยากอยู่คอนโดใกล้ๆ BTS อยู่แล้วตัวเองไม่อยากคับรถ และก็บ้านเดิมก็ไกลทุกสรรพสิ่ง ก็เลยลงเอยด้วยการกู้ซื้อคอนโดแถวๆ BTS สำโรง (ให้ทายอันไหน) นี่ก็เป็นการเปิดโลกครั้งแรกของการกู้เงินและก็เครดิต 555555 พอได้คอนโดมาธนาคารก็เสนอให้เปิดบัตรเครดิตไปพร้อมๆกันเลย

หลังจากเริ่มย้ายมาอยู่คนเดียวก็มีภาระทางการเงินก็ต้องมาอัพเดท budget ที่ทำไว้ตอนแรกอัพเดทค่าใช้จ่ายต่างๆให้มันตรงกับภาระที่มี (ค่างวด/ค่ากิน/ค่าน้ำ/ไฟ/นิติ) ที่ทำจริงๆก็คือนับว่าต้องจ่ายเท่าไหร่และก็เอาไปซ่อนจากก้อนที่ใช้จริงๆ 555

ห้องของคอนโดนี้โชคดีตรงเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เขามีให้อยู่แล้ว ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเยอะ แต่ตัวเองก็อยากได้โต๊ะเก้าอี้ดีๆอยู่ ก็เลยลองใช้โหมดการจ่ายเงินแบบใหม่ที่เพิ่งปลดล็อคมา “Installments (ผ่อน)” ที่อยากลองใช้มานาน สรุปเป็นไง ? เละเทะ 555 เพราะผ่อนโต๊ะกับเก้าอี้พร้อมเก้าอี้พร้อมกัน ฟิลเหมือนรัดตัวเองให้ใช้เงินได้น้อยลงด้วย และคำนวณการใช้จ่ายต่างๆยากขึ้น (เพราะค่างวดแต่ละเดือนมันมาหลังตัดยอดแล้ว) บทเรียนที่ได้มาก็คือถ้าอยากจะผ่อนจริงๆก็ควรจะบริหารเงินดีๆก่อนที่ตัดสินใจผ่อน 555 (แต่บัตร Kbank line points โกงจริงๆนะ 4% cashback)

ด้วยกระแสคริปโตเอย หุ้นเอยที่ลอย หรือคอนเท้นท์แบบ “คนจนเอาเงินไปซื้อของ คนรวยเอาเงินไปลงทุน”ว่อนๆอยู่บนเฟส ตอนแรกก็บอกกับตัวเองว่าโอเคพอเลิกติดเกม/ ซื้อกูดส์จะเอาตังไปลงทุนในอะไรที่ความเสี่ยงต่ำๆอะไรงี้ บังเอิญคนในคอมมูเกม ก็แนะนำกองทุนดัชนี S&P500 ว่าเอาเงินใส่ไปอะดีได้เงินฟรีนะ บลาๆ (เงินฟรี btw) พอลอง Research ดูก็เออมันฟังดูเวิคดีนี่หน่าหลังจากนั้นก็เริ่มวางแผนลงทุนเป็นชิ้นเป็นอันมากขั้น

Free money btw

อีกเรื่องนึงก็คือไปเจอขุมสมบัติที่เรียกว่า r/wallstreetbets หรือคนที่ Yolo Crypto จนเป็น meme ให้อ่านเรื่อยๆ ถึงจะไม่ได้เกิดความสนใจให้ทำตาม แต่ก็ไปปลุกด้าน YOLO ของตัวเองทำให้สนใจ Trading เสี่ยงๆบ้างปีหน้าคงจะมีเอาเงินส่วนไปทิ้งไว้หลายๆเหรียญเผื่อได้แวะไปพระจันทร์กับเขาบ้าง

ปีนี้รวมๆเรื่องการเงินส่วนใหญ่ก็คือการเริ่มจากไม่รู้อะไรเลยและก็คลำทางมาเรื่อยๆ จนได้แผนการเงินที่ตัวเองชอบและก็อยู่กับมันได้นานๆ

ให้คำแนะนำได้นะครับ ! (ยกเว้น derivatives ปวดหัว)


Mental Health

ต่อจากปีที่แล้วที่ตัวเองอยู่กับ Existential Crisis ปีนี้ไม่ค่อยได้คิดเรื่องอะไรพวกนั้นเลย ใช้ชีวิตแฮปปี้ขึ้นเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่ข้อเสียที่ตามมาก็คือทุกอย่างรอบตัวเกี่ยวกับศาสนาก็จะไม่ Make sense ทันที อยากหาเวลาเอาออกอยู่

จริงๆระหว่างปีก็มีปัญหาเรื่อง addiction ต่างๆที่ชอบดันตัวเองเข้าไปใน loop ของมัน (เช่นติดกินขนม, หรือติดนอนดึก) แต่ว่าตัวเองก็หาวิธีรับมือกับมันได้เหมือนกัน ก็คือแค่คิดว่า”แล้วไงต่อ” แล้วเหมือนสมองก็จะแบบ “แออว่ะ” ถ้ามันเป็นสิ่งที่ไม่ได้และก็หยุดทำไปเอง 555

ด้วยความ Introverted ของตัวเองบวกกับการลืมสนิทว่าอยู่กับคนมันเป็นยังไง ทำให้เวลาอยู่กับคนเยอะๆ จะ Drain Energy ตัวเองเยอะมาก จริงๆก็เป็นเรื่องที่อยากแก้อีกอย่างด้วย 555 หลายๆครั้งเดินสวนกับคนรู้จักแต่ก็ไม่มีแรงจะไปทัก Orz

เรื่อง Burn out มีเกิดขึ้นเรื่อยๆระหว่างปีที่พอจะเจอวิธีรับมือของตัวเองอยู่บ้าง (สปอย: ไปทำอย่างอื่นสักพัก)


Ending

ปี้นี้ปีที่หลายๆอย่างก็เช่นการงาน,สกิลเขียนโค้ตหรือเรียนภาษาญี่ปุ่น ยังคง Progress ไปด้วยดี บวกกับปีนี้มี initiative เรื่องสุขภาพ, การเก็บเงิน/ลงทุนด้วย คงจะเป็นเพื่ออนาคตที่ดี

จากการทดลองปล่อยตัวเองทำหลายๆอย่าง ก็ได้คนพบวิธีการที่เหมาะกับตัวเองในการดูแลสุขภาพ/ เก็บเงิน ที่(น่า)จะเอาไปใช้ต่อได้ในอนาคต

ส่วนเรื่องที่ทำเวลาว่างปีหน้าก็คงอยากจะเบาๆเรื่อง Social Game ลงเพราะเล่น Daily ทุกวันก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่แล้ว แอบทรมานมากกว่าสนุก 555 (ช่วงพีคๆ ทำงานเล่นเกมท่องศัพท์เสร็จตี 3 ตื่น 9 โมงมาทำงานต่อ) และก็เหลือเวลาว่างๆไว้บ้าง

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ปีหน้าเราก็คงอาจจะต้องอยู่ยังงี้ไปอีกปี (Thx Omicron) ขอให้ทุกๆคนดูแลสุขภาพตัวเองดีๆและก็ขอให้โลกกับไปเป็นปกติเร็วๆ

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้ เทียบกับปีที่แล้วน่าจะเป็น 2 เท่า ขอบคุณที่อ่านหรือข้ามมาจนถึงตรงนี้ 555 (ยาวเป็นบ้า) สนใจตรงไหนอยากเม้น/ด่า/แลกเปลี่ยนทักมาได้ทุกช่องทางที่หาเจอเลยฮะไม่ต้องเกรงใจ Happy New Year !


New Year Resolution

ก่อนจะมาเริ่มของปีนี้ มาดูกันดีกว่าว่าเป้าหมายต่างๆ ที่เขียนไว้ปีทีแล้วมีอันไหนทำไว้ได้บ้าง

  • DJ ให้ได้หกเดือนหรือมากกว่า: ไม่ได้ทำบ่อยๆแต่ก็ไม่ได้ทิ้งเหมือนกัน
  • เล่นเกนเชินให้ไม่เลิกก่อนจบปีสี่: เล่นครบปี จะเลิกละเนี่ย
  • เว็บส่วนตัวที่ใช้การได้ในระดับหนึ่ง: มีแต่บอท นับปะ
  • เรียนจบ
  • มีงานทำ
  • ทำอาหารเก่งขึ้น: ไม่ได้เรียนเมนูใหม่อะไรเท่าไหร่เพราะยุ่งกับงานแต่ก็ทำอร่อยเหมือนเดิม
  • เริ่มทำบัญชี: ตังแต่ได้เงินเดือนก็เริ่มทำเลย
  • ใช้โทรศัพท์กับไอแพทโดยไม่พัง: ไอแพดเกมไปแล้วแต่เปลี่ยนจอแล้วให้น้องใช้ แต่โทรศัพท์ยังรอดอยู่
  • ทำสักเพลง/remix/อะไรก็ได้: ยังไม่ได้ทำเหมือนเดิม 555
  • WaniKani LV 35 + (Bonus: LV 50) : LV 35 พอดี (อ่านต่อข้างล่าง)
  • Bonus เข้าญีปุ่น: เจอกัน 2025
  • Bonus สอบ N2 ผ่าน: ยกเลิกไอเวร
  • Bonus ทำ Pastry: หาเตาจากไหนก่อน

ทำได้ไปตั้งครึ่งๆไม่เลวดีนี่ 5555 บางอย่างอาจจะตั้งตามความสนใจตอนนั้นพอได้งานทำเวลาว่างก็น้อยลงและก็ต้องตัดบางอย่างออกไป เพราะฉะนั้นปีนี้จะพยายามตั้งให้สนจริงขึ้น อยากจะแค่ตั้ง Goal ให้ Align กับเป้าหมายในอนาคตดีกว่า จะได้ไม่เป็นภาระด้วยมาลองดูของปีนี้ดีกว่า

  • เงินเก็บ 50,000+ ในกองทุน
  • เงินสำรองอย่างน้อย 50,000 ติดบัญชี
  • Wanikani Lv 50+
  • สอบ N1 ผ่านไม่ก็ N2
  • BMI กลับมาสมส่วนหรือใกล้เคียง
  • ใช้เงินฟุ่มเฟือยน้อยกว่าปีนี้
  • สุขภาพดีไม่โดนหมอด่า

แค่นี้แหละ

Appendix: ของใหม่

  • คอนโดใหม่

  • Standing Desk
  • Herman Miller Sayl — ชอบมาจากที่ออฟิศก็เลยเอามานั่งต่อที่บ้าน
  • #จัดโต๊ะคอม (USB C Hub/ ขาตั้งจอ/ Logitech MX Master 3 ที่เหลือของเดิมหมดเลย)

  • Nintendo Switch
  • กีต้าร์โปร่ง (ทาสการตลาด + งานลดราคา = 💳)
  • Goods จำนวนมาก

Appendix: English Version

Since I used lots of English this year, might as well summarize what I’ve been through in English also, just in case anyone is interested enough to read, and for me to cringe on my writing in the future. Feel free to skip some part that doesn’t make sense to you or doesn’t pick up your interest.

2021 is a big year in a sense of my life as I stepped out from Education and start working in a (proper) job. I was lucky i got an offer during my last semester of university and decided to work part-time at BrikL (E-commerce platform). Working there is very enjoyable for me as I got a very supportive team and everyone around is cooperative. (brikl.com/jobs, still recruiting talented software engineers)

Last semester of my university is, to be honest, rather boring due to the fact that I don’t enroll to anything (I dumped every credits I need in to the semester before so that I’m free this semester) and I do senior project alone. So, I have lots of time to juggle between doing project and work part-time. After senior project presentation (done with university), I also passed the probation period for Brikl and worked full time since then.

As I transition into adulthood, concerns such as health or wealth is becoming more important than before (mainly because I’ll be paying for it sooner or later :kek:). For health, I try to be conscious about my posture as working seated 8hr is bad. I tried stretching regularly and whale a chair. That kinda worked out well and I stopped getting back pain since then.

I was fortunate enough to have a friend that studies in something something anti-aging and they invited everyone to take a peek at their lecture if anyone wants to. I happened to stumbled into two of the classes, about diet and sleeping. Both are very important to health as bad sleep and bad diet is source of many health problems imo. So In the end I picked up Intermittent Fasting and lots of tips for proper sleep from the process, and becoming more conscious about how I eat and sleep since then (around July I think).

So after the first few months I got salary, I feel kind of lost in a way as I have know idea how to manage salary nor how to spend it before. I just have a rough plan like “ok I’ll save 10% and put 20% somewhere else and uhhh use the rest”. Clearly it didn’t work out well and I spend toooo much money than I have anticipated. After that I started to make a proper budget what I’m going to use to and keep track of whether I stick to that budget or not. After a few month it worked really well and my spendings is more tamed.

Around the middle of the year, my family decide to move somewhere else because the location was too far. I also wanted to move somewhere close to the city since 2-hr commute daily is not particularly a good idea. So I decided to loan and buy a condominum which looks promising around skytrain. Having to pay loans introduce some challenge in the first 1–2 months but my budget kinda adapted to it so I’m fine now, just less simping funds.

Next year I’ll try to reduce spendings on goods and games and include a budget for investments as it is important to plan for your retirement as early as possible (And also because crypto is becoming hot topic for everyone). The only reason I am into investment is because of wojak memes and r/wallstreetbets.

Last year I started Wanikani, i.e. learning Japanese vocabularies, and has been grinding it daily. Doing it daily feels natural because I often do login bonus in mobile games so I just include grinding japanese kanji as one of them. After a year-ish I managed to learn enough vocab/kanji to challenge JLPT N2 (Upper intermediate level Japanese exam), so I signed up for it. However, a month before test the test center decided to cancel the exam and refund everyone who sign up for it due to “concerns for covid infection” (???????). To be honest I was pretty bummed out cuz I studied quite a lot for it during a month prior. But I will just take this experience and sign up for the exam again next year. If I grind hard enough I might be ready for JLPT N1 anyway.

Apart from that, most of my free time this year is all spent on playing games and watching livestream/ random youtube videos. I discovered tiering (big mistake) and hop on it for the most part of the year. My peak was 3rd at an event in D4DJ Groovy Mix and I decided to not tier hard since then since it’s too tiring and time consuming. Also I get to know Umamusume (another mistake) from recommendation from people I know. I played for a few months and stopped soon after the first wave of giga-powercreep hit. This game just takes too much time for me to grind everything again from scratch :sadge:.

But, Umamusume also introduce me to actual hors racing in Japan (not a mistake, yet), because you have to remember race schedules to properly play the game, and races are trending so hard in twitter on the race day. It is actually enjoyable and I stick to it watching it every week since the first big race I’ve watched (Nippon Derby).

Other than D4DJ and Umamusume, I just casually follow seiyuus and bought lots of goods (Tenso was a mistake).

Overall this year is mostly my first step to adulthood learning stuff adults do like earning salary and getting office syndrome. What I’ve been doing is just trying to adjust to the new lifestyle and trying to survive in midst of the pandemic. Also I think this year I spent too much time in Discord, hopefully next year I get to go outside and meet people or maybe go overseas ? :copium: (go away plz omicron thx).

I think I never tried this hard to write an article, hopefully it’s shorter next year :kek: Thank you every one for reading this far and Happy new year !


Appendix: 日本語版

今年の振り返りは日本語でも書きます!折角こんなに学びましたからね。ちょっと下手くそだけど頑張ります。この分は未来の自分に現在の下手さを伝えたかったが、他の皆さんにちゃんと伝えたらいいなと思いますw

ー大学無事に卒業しました!

ー就職も出来ました

ー初めて給料もらいましたが何をするのは分からなくて。初月はお金を使いすぎちゃって。その翌月はお金のいい使い方を勉強しました

ークリプトとか株式とかの投資の興味はじめた

ー睡眠や飲食は健康のために前より気をつけています

ーD4DJグルミクイベランをいっぱいしました、でも課金も予想よりおおがったでしたw。海外鯖や日本鯖の方々と遊んで話して楽しかったです。頂点はチームFイベントの3位!だけどそこからは引退っぽいな感じです

ーウマ娘を知ってはまっちゃいました セイちゃんかわいい

ーウマ娘の影響で競馬見て初めました、日本ダービーから毎週日曜日見てますw 馬券は買えませんが予想はよくします

ー声優とか他の作品とかをしています、グッズもいっぱい買いましたw

ー一年中ワニカニで日本語勉強しました、下半期の日本語能力試験を挑戦したくて勉強したが、テスト日の1ヶ月前に突然にコロナで試験が中止した。来年は出来ればN1挑戦したいですが、無理ならN2

ー日本語はどんどん上手くて自分は感じています。最近、動画を見るとかニュースを読むとかは辞書はいらなくなっています。でも話すとか書くとかはもっと上手くなりたい

来年はもっと貯金と投資のお金は積みて(?)、もっと健康的な生活もしたいです

読者の皆さんに良い年を過ごしてください!Happy New Year !


อ่านบน Medium


    © 2023-2024 HamP, Assets used in the site belongs to respective owner | View Source